วันแรก |
หาดใหญ่- ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว-วัดช้างไห้-สะพานเขื่อนบางลาง-อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์-ตู้ไปรษณีย์เบตง-เบตงอาร์ตสตรีท |
08.00 น. |
รับคณะจากสนามบินหรือในตัวเมืองหาดใหญ่ จากนั้นเดินทางสู่ เบตง ระหว่างทางแวะ ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว เพื่อเพิ่มความเป็นสิริมงคลแกทุกท่าน จากนั้นเดินทางต่อสู่ วัดช้างไห้ เที่ยวชมหรือสักการะ หลวงปูทวดเพื่อขอพร เมื่อได้เวลาที่เหมาะสมพาคณะเดินทางสู่ เบตง |
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (1) |
บ่าย |
พาคณะเดินทางต่อสู่ เบตง เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดยะลาที่อยู่ท่ามกลางหุบเขาที่ตอนนี้กำลังเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวชาวไทยด้วยอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี ระหว่างทางพาท่านแวะ ถ่ายรูปที่สะพานข้ามเขื่อนบางลาง ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อย่นระยะทางในการเดินทางจากเดิมที่ต้องวิ่งรถตามไหล่เขาเลียบเขื่อนซึ่งต้องใช้เวลาเดินทางนาน |
แวะ |
ถ่ายรูปที่ ตู้ไปรษณีย์เบตง อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ เบตงสตรีทอาร์ท และวิ่งรถผ่าน หอนาฬิกาเบตง |
ค่ำ |
บริการอาหารค่ำ ณ ร้านอาหาร (2) |
พัก |
พาท่านเข้าพักโรงแรม 4 ดาวที่ Grand Mandarin Betong Hotel หรือ ระดับเดียวกัน |
วันที่สอง |
ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง-อุโมงค์ปิยมิตร-สะพานแตปูซู-สวนไม้ดอกเมืองหนาว-ป้ายโอเคเบตง-
ป้ายใต้สุดแดนสยาม-ปีนังสตรีดอาร์ท |
04.00 น. |
ทุกท่านพร้อมกันที่ล๊อบบี้ของโรงแรม เพื่อเตรียมตัวเดินทางไปชมทะเลหมอกที่ จุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ทุกท่านจะได้พบกับ SKY WALK AI YERWENG ให้ท่านตื่นเต้นกับสะพานกระจกและวิวสวยๆของทะเลหมอกอัยเยอร์เวง |
07.30 น. |
พาคณะเดินทางกลับสู่โรงแรมที่พัก เพื่อรับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (3) |
08.30 น. |
พาท่านเที่ยวชมที่ท่องเที่ยวต่างๆ ของเบตง ดังนี้
1.อุโมงปิยมิตร ซึ่งเป็นอุโมงค์ฐานที่มั่นของคอมมิวนิสต์มลายา ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และสมาชิกส่วนใหญ่
ของคอมมิวนิสต์มลายา หรือ พคม. ประกอบด้วยกลุ่มชาติพันธุ์จีนจึงทำให้มีชื่อเรียกในนาม ดจรจีนคอมมิวนิสต์มลายา หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า จคม.
2.ชมสะพานแตปูซู ไม่เพียงแต่ใช้สัญจรไปมาระหว่างชาวบ้านสองฝั่งแม่น้ำเท่านั้น แต่ยังเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของความรักความสามัคคีของคนในชุมชนชาว กม.32 อีกด้วย โดยในอดีตชาวบ้านที่อยู่อีกฝั่งของแม่น้ำปัตตานีมีความยากลำบากในการเดินทาง ซึ่งในยุคนั้น ต้องใช้แพไม้ไผ่ในการข้ามไป-มา การขนย้ายผลผลิตการเกษตรหรือคนป่วย ก็ยากลำบาก เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง และทำให้เด็กๆต้องเสียชีวิตทุกปี ท่านอดีตกำนันในสมัยนั้นได้เล็งเห็นถึงความยากลำบากดังกล่าว จึงได้ช่วยกันระดมพลังและเงินสมทบจากชาวบ้านร่วมกับราชการ ร่วมแรงร่วมใจกันก่อสร้างจนสำเร็จได้ในที่สุด และได้มีการตั้งชื่อว่า สะพานแตปูซู ตามผู้บุกเบิกนั่นเอง
3.สวนหมื่นบุปผา หรือ สวนไม้ดอกเมืองหนาว ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านปิยมิตร2 ซึ่งเป็นโครงการทดลองปลูกไม้ดอกเมืองหนาวตามแนวพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ด้วยความร่วมมือของทางจังหวัดยะลากับศูนย์ศึกษาการพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดนราธิวาส ดดยมีสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ หรือ สำนักงาน กปร. เป็นผู้ผลักดันอีกแรง ด้วยเพราะหมู่บ้านปิยะมิตร 2 ซึ่งมีอากาศหนาวทำให้ปลูกยางพาราไม่ได้ผล สมเด็จพระเทพฯ เมื่อครั้งเสด็จเยือนครั้งแรกในปี พ.ศ.2537 ทรงแนะนำแนวทางปลูกไม้เมืองหนาวทำให้หุบเขาดังกล่าวเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีดอกไม้เมืองหนาวหลากหลายสี
เช่นเดียวกับบนดอยทางภาคเหนือ
4. แวะถ่ายรูปที่ ป้าย OK BETONG ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญสำหรับท่านที่มาเที่ยวเบตงแล้วแวะจุดถ่ายรูปนี้ |
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (4) |
บ่าย |
พาท่านเดินทางสู่ ด่านมาเลเซียที่ ด่านบูเก็ตบือราเป็ต ซึ่งเป็นด่านไทยและด่านมาเลเซียเพื่อเดินทางสู่ปีนังมาเลเซีย ระหว่างทางก่อนออกจากด่านไทย แวะถ่ายรูปที่ ป้ายใต้สุดแดนสยาม ซึ่งเป็นสัญญาลักษณ์ดินแดนทางใต้สุดของประเทศไทยที่ติดกับประเทศมาเลเซียนั้นเอง |
จากนั้น |
เมื่อผ่านด่านและการตรวจหนังสือเดินทางของทั้ง 2 ประเทศแล้ว พาคณะเดินทางตรงสู่ เกาะปีนังประเทศมาเลเซีย
ระยะทางเพียง 130 กิโลเมตร
นำท่านผ่านสะพานข้ามจากแผ่นดินใหญ่ปีนังสู่ เกาะปีนัง ซึ่งอดีตเคยเป็นสะพานที่ยาวเป็นอันดับ 4 ของโลก เกาะปีนังว่ากันว่าที่นี่คือ ไข่มุกแห่งตะวันออก เป็นเมืองที่รวบรวมความพิเศษที่ผสมผสานระหว่างโลกตะวันออกและโลกตะวันตกไว้ได้อย่างกลมกลืน จึงกลายเป็นเมืองมรดกโลกในปัจจุบัน |
จากนั้น |
พาท่านเที่ยวชม ย่านเมืองเก่า ย่านปีนังอาร์ทสตรีต ที่นี่เป็นถนนสายวัฒนธรรมที่ทำให้นานาประเทศเห็นความสำคัญของเมืองเก่าที่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมขึ้นชื่อ
ของประเทศมาเลเซีย ให้ท่านมีเวลาเดินถ่ายรูป เช็คอิน และหาอาหารองท้องได้ตามอัธยาศัย |
ค่ำ |
บริการอาหารค่ำ ณ ร้านอาหาร (5) |
พัก |
เข้าพัก ณ Cititel Express Hotel Penang หรือระดับเดียวกัน |
วันที่สาม |
วัดไทย-วัดพม่า- Chew Jaetty-ปีนังฮิลล์- Design Village Outlet Mall-ด่านสะเดา-หาดใหญ่ |
07.00 น. |
บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารของโรงแรม (6) |
08.00 น. |
พาคณะเดินทางสู่ วัดไทยและวัดพม่า ซึ่งเป็น 2 วันเพื่อนบ้านของประเทศมาเลเซียที่เป็นที่เคารพสักการะของทั้งชาวไทยและชาวพม่าที่อาศัยอยู่ในปีนังและประเทศมาเลเซีย |
จากนั้น |
พาท่านไปถ่ายรูปและเดินชมย่านท่องเที่ยวเชิงชุมชนที่ Chew Jetty ซึ่งอดีตที่นี่เป็นหมู่บ้านชาวประมงของชาวจีนอพยพ ปัจจุบันที่นี้องค์การยูเนสโก้ได้ประกาศเป็นหนึ่งในแหล่งมรดกโลกของประเทศมาเลเซีย |
จากนั้น |
จากนั้นพาท่านไปยัง ปีนังฮิลล์ (Penang Hill) (ยังไม่รวมค่าเข้าชมประมาณ 30-35 ริงกิต) หรือที่ภาษามาเลย์
เรียกว่า บูกิต เบนดารา (Bukit Bemdara) เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมท่องเที่ยวที่น่าสนใจ โดยปีนังฮิลล์นั้นอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ 830 เมตร และถือว่าเป็นจุดสูงสุดของเกาะปีนังอีกด้วย ปัจจุบันปีนังฮิลล์ เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวเมืองที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะวิวทิวทัศน์ของตัวเมืองรวมไปถึงเกาะปีนังแบบแบบกว้างไกลสุดสายตา นั่นจึงทำให้บริเวณนี้ เป็นมุมดีที่สุดในการถ่ายภาพตัวเมืองจอร์จทาวน์ |
เที่ยง |
บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร (7) |
บ่าย |
พาคณะเดินทางกลับประเทศไทย โดยข้ามกลับจากเกาะปีนังสู่แผ่นดินใหญ่ ผ่านสะพานปีนัง ที่มีความยาวถึง 13 กิโลเมตร |
แวะ |
ให้ท่านได้ช้อปปิ้งที่ Design Village Outlet Mall เป็นเอาร์ทเล็ทขนาดใหญ่ของมาเลเซียถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 2016 ด้วยเนื้อที่ว่า 37,161 ตารางเมตร ท่านจะได้พบกับสินค้าแบรด์เนมต่างๆ มากมาย ที่ลดสูงสุดถึง 70% ตลอดทั้งปี |
เมื่อ |
ได้เวลานัดหมายพาคณะเดินทางสู่ ด่านจังโหลน และด่านสะเดาฝั่งประเทศไทยต่อไป |
19.00 น. |
เวลาโดยประมาณ ส่งท่านที่สนามบินหาดใหญ่ หรือ ในตัวเมืองหาดใหญ่ |
